Work from Home: การทำงานรูปแบบใหม่พลิกโฉมโลกไปอย่างไร?
- NOVA Online Thailand
- 4 days ago
- 1 min read
ในช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมา หลายองค์กรทั่วโลกจำเป็นต้องปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้ธุรกิจยังคงเดินหน้าต่อไป หนึ่งในวิธีที่ถูกนำมาใช้และแพร่หลายก็คือ การทำงานจากที่บ้าน หรือ Work from Home ซึ่งไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจอยู่รอด แต่ยังเปิดมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับการทำงานที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ชีวิตคนทำงานมากขึ้น ปัจจุบันแม้สถานการณ์จะคลี่คลายแล้ว แต่รูปแบบการทำงานทั้ง Work from Home และ Hybrid Work (การผสมผสานระหว่าง Work from Home และ Work On-site) ก็ยังเป็นรูปแบบที่หลายองค์กรเลือกใช้อย่างต่อเนื่อง
ข้อดีของการ Work from Home
1. Productivity เพิ่มขึ้นจริง
หลายคนมักกังวลว่าการทำงานจากบ้านจะทำให้ประสิทธิภาพงานลดลง แต่ผลการศึกษากลับชี้ตรงกันข้าม จากการสำรวจของ ConnectSolutions ระบุว่า 77% ของพนักงานที่ทำงานจากบ้านมีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น โดยพนักงานสามารถทำงานได้มากขึ้นในระยะเวลาที่เท่าเดิมหรือน้อยลง แสดงให้เห็นว่าการ Work from Home ไม่เพียงแค่ช่วยรักษาผลลัพธ์เดิม แต่ยังเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานด้วย
2. ลดต้นทุนทั้งองค์กรและพนักงาน
การทำงานจากที่บ้านช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ทั้งสองฝ่าย องค์กรไม่ต้องแบกรับต้นทุนด้านสำนักงานมากนัก ขณะที่พนักงานก็ประหยัดค่ารถ ค่าอาหาร และเวลาที่เสียไปกับการเดินทางได้เช่นกัน
3. Work-life balance ที่ดีขึ้น
เมื่อไม่ต้องใช้เวลาไปกับการเดินทาง พนักงานจึงมีเวลามากขึ้นสำหรับครอบครัวและการดูแลตัวเอง ส่งผลให้สุขภาพกายและใจดีขึ้น และสามารถทำงานได้อย่างมีพลังมากกว่าเดิม
ความท้าทายของการ Work from Home
แม้การทำงานจากที่บ้านจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความท้าทายตามมาเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือการขาดปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานที่อาจทำให้การทำงานเป็นทีมไม่ราบรื่น อีกทั้งสภาพแวดล้อมในบ้านก็อาจเต็มไปด้วยสิ่งรบกวนที่ทำให้สมาธิลดลง นอกจากนี้ยังมีพนักงานจำนวนไม่น้อยที่ไม่ถนัดใช้โปรแกรมดิจิทัลต่างๆ หรือไม่คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษที่มักปรากฏในระบบและซอฟต์แวร์การทำงาน ทำให้ต้องใช้เวลาเรียนรู้มากกว่าปกติ
แนวทางการปรับตัว
สำหรับพนักงาน
สิ่งสำคัญคือการจัดสรรเวลาและสร้างวินัยในการทำงาน รวมถึงการแยกพื้นที่ทำงานออกจากชีวิตส่วนตัวอย่างชัดเจน เพื่อลดความเครียดและเพิ่มสมาธิในการทำงาน อีกทั้งการ Work from Home ยังจำเป็นต้องใช้ทักษะใหม่ ๆ เช่น โปรแกรมออนไลน์ หรือภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ก็ควรเปิดใจเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
หากต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษแต่พื้นฐานน้อย อาจพิจารณาเริ่มจากคอร์สเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน ที่ปรับให้สอนตามระดับทักษะของผู้เรียน เน้นการสื่อสารในชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนก้าวสู่คอร์สเรียนภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจต่อไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสและความมั่นใจในการทำงานร่วมกับชาวต่างชาติและรูปแบบการทำงานที่หลากหลายได้มากขึ้น
สำหรับ HR และองค์กร
นอกจากการสนับสนุนอุปกรณ์และเครื่องมือดิจิทัลที่จำเป็นแล้ว องค์กรยังควรออกแบบกิจกรรมเพื่อรักษาความสัมพันธ์และลดความรู้สึกโดดเดี่ยวของพนักงาน เช่น แจกคูปองอาหารเดลิเวอรี่ สร้างกิจกรรมสันทนาการออนไลน์เล็ก ๆ ที่ช่วยให้ทีมยังคงรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร
อีกทั้งองค์กรยังสามารถสนับสนุนการพัฒนาทักษะให้พนักงานผ่านการสนับสนุนคอร์สเรียนออนไลน์ที่เหมาะกับรูปแบบการทำงานจากที่บ้าน เช่น คอร์สเรียนพูดภาษาอังกฤษ ออนไลน์ หรือคอร์สเรียนภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ
Work from Home ไม่ใช่เพียงแค่ทางออกในช่วงวิกฤต แต่ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นรูปแบบการทำงานที่ช่วยเพิ่ม Productivity ลดต้นทุน และสร้าง Work-life balance ให้กับพนักงาน การเตรียมความพร้อมด้านทักษะ เทคโนโลยี การสื่อสาร และภาษาอังกฤษ จะทำให้ทั้งพนักงานและองค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากการทำงานรูปแบบใหม่นี้ได้อย่างเต็มที่และพร้อมเดินหน้าสู่การทำงานในยุคดิจิทัล
หากองค์กรของคุณกำลังมองหาคอร์สเรียนพูดภาษาอังกฤษ ออนไลน์ เพื่อเสริมทักษะภาษาอังกฤษให้พนักงาน ที่สถาบันสอนภาษา NOVA online มีคอร์สเรียนพูดภาษาอังกฤษออนไลน์ที่เหมาะกับพนักงานทุกระดับ ตั้งแต่คอร์สภาษาอังกฤษพื้นฐาน คอร์สภาษาอังกฤษเน้นสนทนา และคอร์สภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ พร้อมระบบติดตามผลที่ช่วยให้ HR ประเมินความก้าวหน้าได้จริง
ทำไมต้อง NOVA online ?
เป็นสถาบันเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองอนุญาตให้ทำการสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษ Callan
สถาบันระดับ TOP ของญี่ปุ่น ปรับหลักสูตรเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ
สอนโดย Professional Teacher คัดเลือกและอบรมอย่างดี
พร้อมให้คำแนะนำ พัฒนาภาษาอังกฤษได้ตรงจุด
คอร์สเรียนพูดอังกฤษ ออนไลน์ สะดวก เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา
เลือกคอร์สให้ตอบโจทย์ได้ตามไลฟ์สไตล์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
